มาให้อาหารสมองกันเถอะ

6 สุดยอดอาหารบำรุงสมอง

ปลาทะเลน้ำลึก อย่างปลาแซลมอน : รู้หรือเปล่า? สมองมีไขมันเป็นส่วนประกอบมากกว่า 60%เชียวนะคะ ซึ่งมันหมายความว่าเราต้องการไขมันชั้นดีอย่างโอเมก้า 3 นั่นเองค่ะ
แครนเบอร์รี่ : จากการศึกษาพบว่าสารในแครนเบอร์รี่ช่วยต่อต้านอาการป่วยเรื้อรังของสมอง อย่างอาการความจำเสื่อม
ขมิ้น : เครื่องเทศสำคัญที่เอาไว้ใส่ในแกงกะหรี่แสนอร่อยนี่ล่ะค่ะ สีเหลืองของมันช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ(ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ ความจำเสื่อมได้)
ข้าวไม่ขัดสี : ข้าวกล้องดีต่อสุขภาพเสมอ นอกจากข้าวกล้องจะเป็นแหล่งพลังงานชั้นดีแล้ว ยังให้โปรตีนที่ผลิตกรดอะมิโนที่เป็นตัวส่งสารอาหารไปยังสมองด้วย
สตรอเบอร์รี่ : จากการทดลองให้สตรอเบอร์รี่กับหนูที่อายุมาก พบว่ามันช่วยพัฒนาทั้งประสิทธิภาพในการเรียนรู้และประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อ สมอง
ผักขม : ช่วยชะลอปัญหาในเรื่องประสิทธิภาพของสมองส่วนกลาง และการรับรู้ที่เสื่อมลงไปตามวัย สลัดผักขมสักชามให้โฟเลทสูงด้วยนะคะ

แซนดร้า - แล้วมันจะผ่านไป

ทำอย่างไรให้เรียนเก่ง

1.คุมเวลาตื่นนอนให้ได้ทุกวัน
เช่น ตื่น 6 โมงเช้านอน 4 ทุ่ม ซัก 1 เดือนติดต่อกัน
 เพราะจะเป็นการจัดระบบมันสมองใด้อย่างดีเยี่ยม
และจะรู้สึกว่าสมองมีพลังในการรับรู้ 

 2. หลักการอ่านหนังสือใด ๆ ไม่จำเป็นต้องอ่านทีละนาน ๆ
เช่นตั้งไว้ว่า วันนึง เราจะ อ่านซัก 1 - 2 ชม.ก็เกินพอ
แต่สำคัญอยู่ที่ความต่อเนื่อง ถ้ายังบังคับตัวเองไม่อยู่ ข้อ 1. ก็เป็นการฝึกบังคับอย่างนึงแล้ว
ต้องอ่านทุกวัน ไม่มีวันหยุด

3. ที่ว่า 1 -2 ชม.นั้นต้องรู้ว่าตัวเองเราสามารถรับได้ครั้งละเท่าไร
อย่างเช่น อ่านวันละ 2 ชม. แต่แบ่ง เป็น 4 ยก ครั้งละ 25 - 30 นาที
และพัก 5- 10 นาที

4. อ่านจบวันนึง ๆ ต้องมีสรุป
สรุปสั้น ๆ ว่าวันนี้ได้อะไรบ้าง สูตรอะไร ๆ หรือความเข้าใจอะไร

5. ถึงตอนนอนให้นั่งสมาธิซัก 5 นาทีพอรู้สึกใจเริ่มนิ่ง ให้นึกที่เราสรุปไว้
ถ้านึกไม่ออกแสดงว่าสมาธิตอนอ่านหนังสือไม่ดี
ให้เปิดไฟ ลุกออกไปดูที่สรุปใหม่ แล้วนึกใหม่


 6. ต้องรู้วิธีเรียนในแต่ละวิชา

อังกฤษ เป็นเรื่องทักษะ ต้องใช้บ่อย ๆ 
เวลาจะทำอะไรก็นึกเป็นภาษาอังกฤษบ้าง
เช่นนึกจะทักเพื่อนว่าไปไหน ก็นึกว่า
where do you go ?เป็นต้น 
 
7. วิธีเรียนพวกวิชาที่ใช้ความเข้าใจ

อันดับแรกต้องรีบศึกษาเนื้อหาทั้งหมดให้จบอย่างรวดเร็ว
ถามว่าอ่านจากไหน อย่ามองไกลแบบเรียนนั่นล่ะ อย่าเพิ่งไปมองพวกคู่มือ
 จากนั้นให้รีบหา แบบฝึกหัด มาทำในแบบเรียนนั่นล่ะให้ได้หมดก่อน
จากนั้นค่อย เสาะหาตำราคู่มือที่คิดว่าเราดี อ่านแล้วเข้าใจอีกซักเล่มนึงมา
อ่านเนื้อหาให้หมด อีกที แล้วทำแบบฝึกหัดในเล่มนั้นให้จบหมด .
สำคัญคือความตั้งใจนะคะ
ต้องเข้าใจว่าเรา มีความรู้ในบทนั้น ๆ จบแล้ว
ทำไมยังทำโจทย์บางข้อไม่ได้ พยายามคิด
สุดท้ายไม่ออก ก็ดูเฉลย แล้วต้องตอบตัวเอง
ให้ได้ว่าเราโง่ตรงไหน ทำไมทำไม่ได้
โจทย์ข้อนั้น ๆ เป็นเทคนิคเฉพาะหรือเปล่า
ต่อไป ก็เสาะหาพวกข้อสอบต่าง ๆ มาให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วก็ทำๆๆ
จนเกิดรู้สึกว่า  บรรลุ !!! ในเรื่องนั้น ๆ มันเป็นความรู้สึกคล้าย ๆ สำเร็จเป็นผู้วิเศษอะไรทำนองนั้น
หรือฝึกวิทยายุทธสำเร็จแบบนั้น  
คือ ต้องมีความรู้ติดสมอง สามารถหยิบมาใช้การได้ทันที
เด็กสมัยใหม่นี้ชอบคิดว่าเรียนๆ ไปเพื่อสอบ สอบเสร็จก็เลิก  ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด
ดังนั้น จากข้อ 7. เราต้องบันทึกความรู้ที่เรารู้แล้ว
ให้เป็นความรู้ยาวนานติดสมอง  โดยทำดังต่อไปนี้
- ให้นึก ! โน๊ตย่อที่เราสรุปเอง อาทิตย์ละหน ติดต่อกัน ซัก 1 เดือนหรือ 4 อาทิตย์
นึกนะคะ ไม่ใช่เปิดดูถ้านึกไม่ออก แสดงว่าไม่ได้สรุปเองแล้วล่ะเปิดหนังสือ แล้วสรุปตามแหง ๆ
จากนั้นให้ทิ้งห่างเป็น นึก 1 เดือนต่อครั้ง
จนเริ่มรู้สึกเบื่อ เพราะนึกทะลุปรุโปร่งหมดแล้วให้เลิกค่ะ
ใกล้สอบค่อยว่ากันอีกที  

9. กระบวนการสุดท้าย เป็นการเพิ่มพลังความมั่นใจในตัวเองซึ่งต้องกระทำติดต่อกันบ่อยๆ เรื่อยๆ   คือกระบวนการสอบแข่งขัน

ตรงนี้สำคัญมาก ถ้าเป็นไปได้สอบแข่งซะแต่
ม.1 จนจบ ม.6 เลย จะทำให้เรารู้อันดับตัวเอง
เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ  เช่นเราอาจจะเรียนได้เกรดดี แต่พอสอบแข่งจริงๆล่ะ สู้เขาได้รึเปล่า
ทักษะในการทำข้อสอบ มีไหม
เข้าห้องก็เดินหน้าลุยทำแต่ข้อแรกยันข้อสุดท้ายเลยหรือเปล่า
***สิ่งสำคัญคือการอ่านล่วงหน้านะคะ ช่วงปิดเทอมก็อ่านหนังสือ
เพราะการอ่านหนังสือล่วงหน้าจะทำให้เราเข้าใจบทเรียนง่ายขึ้น

 

ข้อคิดในการดำเนินชีวิต

1.    ปฏิบัติต่อคนอื่น เช่นเดียวกับที่ต้องการให้คนอื่นปฏิบัติต่อเรา
2.    พูดคำว่าขอบคุณให้มากๆ
3.    รักษาความลับให้เป็น
4.    ประเมินคุณค่าของการให้อภัยให้สูง
5.    ฟังให้มากแล้วจะได้คู่สนทนาที่ดี
6.    อย่าหยิ่งหากจะกล่าวว่าขอโทษ
7.    ยามทะเลาะกัน ผู้ที่เงียบก่อน คือผู้ที่มีการอบรมสั่งสอนมาดี
8.    เป็นหน้าที่ของเราที่จะพูดให้คนอื่นเข้าใจ ไม่ใช่หน้าที่ของคนอื่นที่จะทำความเข้าใจในสิ่งที่เราพูด
9.    อย่าตามใจตนเอง เพราะเรื่องยุ่งๆที่เกิดขึ้น ล้วนตามใจตนเองทั้งสิ้น
10.  หากล้มลงจงอย่ากลัวกับการลุกขึ้นใหม่
11.  ระยะทางนับพันกิโลเมตร แน่นอนมันไม่ราบรื่นตลอดทาง
12.  จงใช้จุดแข็ง อย่าเอาชนะจุดอ่อน
13.  เมื่อไม่มีใครเกิดมาแล้ววิ่งได้ จึงควรทำสิ่งต่างๆอย่างค่อยเป็นค่อยไป
14.  ฟันร่วงเพราะมันแข็ง ส่วนลิ้นยังอยู่เพราะมันอ่อน
15.  ระเบียบวินัย คือ คุณสมบัติสำคัญในการดำเนินชีวิต
16.  ยอมรับความผิดพลาดของตนเอง หากมีใครตำหนิและรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นความจริง
17.  ดาวและเดือนอยู่สูง อยากได้ต้องปีนบันไดสูง
18.  ระลึกถึงความตายวันละ 3 ครั้ง ชีวิตจะมีสุข มีให้ มีอภัย
19.  อย่าดึงต้นกล้าให้โตไวๆ
20.  เมื่อแพ้อย่าลืมเก็บไว้เป็นบทเรียน